top of page

กิจกรรมพัฒนา

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

         กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นกระบวนการ ด้วยรูปแบบวิธีการที่หลากหลาย ในการพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม มุ่งเสริมเจตคติ คุณค่าชีวิต ปลูกฝัง คุณธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสำนึกในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับตัวและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติและดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข

         กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ

1. กิจกรรมแนะแนว ส่งเสริมและพัฒนาความสามารถของผู้เรียนให้เหมาะสมตามความแตกต่างระหว่าง บุคคล สามารถค้นพบและพัฒนาศักยภาพของตน เสริมสร้างทักษะชีวิต วุฒิภาวะทางอารมณ์ การเรียนรู้ ในเชิงพหุ-ปัญญาและการสร้างสัมพันธภาพที่ดี

2. กิจกรรมนักเรียน ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเองตั้งแต่ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทำงาน โดยเน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนได้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ปัญหา ส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนอย่างเต็มที่ รวมทั้งปลูกฝังความมีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ รู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเอง       

วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

1. เพื่อผู้เรียนใช้กระบวนการกลุ่ม ฝึกทักษะ การวิเคราะห์ วางแผน เพื่อส่งเสริมด้านวิชาการและวิชาชีพ

2. ผู้เรียนได้ค้นพบความสนใจ ความถนัด และได้ใช้กระบวนการกลุ่มพัฒนาความสามารถพิเศษเฉพาะ ตัว

3. ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะการให้บริการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม

4. ผู้เรียนพัฒนาบุคลิกภาพ เจตคติ ค่านิยม ในการดำเนินชีวิต

5. ได้รับการปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกในการทำประโยชน์ต่อสังคมและเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม

กิจกรรมแนะแนว

         การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยกำหนดให้ผู้เรียนทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนดังนี้

กิจกรรมแนะแนว

         ครูผู้สอนทุกคนทำหน้าที่แนะแนวให้คำปรึกษาด้านชีวิต การศึกษาต่อ และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ค้นพบความต้องการของตนเอง โดยการจัดกิจกรรมหรือการให้ผู้เรียนได้ทำการประเมินตนเอง ครูผู้สอนทุกคนสามารถทำหน้าที่เป็นครูแนะแนวให้คำปรึกษาในกรณีที่ผู้เรียนมีปัญหาซับซ้อนที่ต้องการแก้ไข ครูแนะแนวจะทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและแก้ไข

แนวการจัดกิจกรรมแนะแนว

         โรงเรียนจัดกิจกรรมแนะแนว (จริยะ) ให้กับผู้เรียน โดยการกำหนดในตารางเวลาเรียนปกติ สัปดาห์ละ 1 คาบ

ลักษณะของกิจกรรมแนะแนว (จริยะ)

1. เป็นกิจกรรมที่มุ่งส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา ความถนัด ความสนใจ อารมณ์และสังคม

2. เป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและการดำเนินชีวิต

3. เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สอนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการรู้จักและเข้าใจผู้เรียนอันนำไปสู่การป้องกัน ส่งเสริมหรือช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม

การวัดและเครื่องมือสำหรับผู้เรียนในกิจกรรมแนะแนว

สิ่งที่ต้องการวัด คือ 

1. พฤติกรรมของผู้เรียนด้านการเรียน อารมณ์ สังคม

2. ความรู้ ความเข้าใจของผู้เรียนเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ

เครื่องมือสำหรับการจัดกิจกรรมแนะแนว คือ

1. แบบบันทึกการสังเกต

2. แบบสอบถาม

3. แบบทดสอบ

กิจกรรมนักเรียน

         เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเองอย่างครบวงจร ตั้งแต่ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทำงาน โดยเน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม

แนวทางการจัดกิจกรรม

         กิจกรรมนักเรียน โรงเรียนจัดให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมโครงงาน โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ เลือกคิด ทำกิจกรรมโครงงานตามความถนัด และความต้องการของผู้เรียน ดังนี้

1. กิจกรรมเพิ่มพูนวิชาการ ส่งเสริมสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม โดยจัดทำเป็นโครงงานที่ส่งเสริมสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม โดยการจัดในตารางเวลาปกติ สัปดาห์ละ 1 คาบ ดังนี้

- ภาษาไทย
- คณิตศาสตร์
- วิทยาศาสตร์
- สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- สุขศึกษาและพลศึกษา
- ศิลปะ
- การงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี
- ภาษาต่างประเทศ

2. กิจกรรมพัฒนาสังคม เพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม โดยการจัดเป็นกิจกรรมกลุ่มและจัดในตารางเวลาเรียนปกติ สัปดาห์ละ 1 คาบ ได้แก่ กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี

3. กิจกรรมบริการงานโรงเรียน ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม โดยการกำหนดเวลาให้จัดกิจกรรมในแต่ละช่วงต่าง ๆ ได้แก่ งานสวดภาวนา เช้า กลางวัน เย็น งานทำความสะอาดโรงอาหารและสนาม กิจกรรมเสริมความรู้หน้าเสาธง และงานอาสาสมัครช่วยจราจร

หลักเกณฑ์การประเมินกิจกรรม
1. ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมดและมีหลักฐานแสดงการเข้าร่วม กิจกรรม

2. ผู้เรียนจะต้องผ่านจุดประสงค์ที่สำคัญของแต่ละกิจกรรม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจุดประสงค์ทั้งหมด

3. ถ้าผู้เรียนไม่ผ่านเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมหรือไม่ผ่านจุดประสงค์ของกิจกรรม ผู้เรียนต้องปฏิบัติกิจกรรมเพิ่มเติมตามที่ครูปรึกษากิจกรรมมอบหมาย หรือให้ความเห็นชอบตามที่ผู้เรียนเสนอ

bottom of page